เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม หุ้นเทคโนโลยีอาจจะ “ดูแพง” แต่เมื่อประเมินโอกาสการเติบโตในอนาคตประกอบ หุ้นเทคโนโลยียังถือว่า “ไม่แพง” ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดหรือ market capitalization ของหุ้นเทคโนโลยีในปัจจุบันยังถือว่าค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับโอกาสทางธุรกิจที่บริษัทเหล่านี้สามารถเติบโตไปถึงได้ในอนาคต
- เหตุผลที่สองคือ ราคาหุ้น เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตแล้ว ยังมี margin of safety ให้ลงทุนได้
หรือหากสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดหุ้น และหุ้นเทคโนโลยีได้อย่างแม่นยำ บอกได้ค่อนข้างแน่นอนว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกมาเป็นอย่างไร การปิดสถานกงศุลจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะทำให้หุ้นเทคปรับตัวลงหรือขึ้น การรอจังหวะหุ้นตกหนักๆ ก็น่าจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้คุณได้
แต่ถ้าไม่สามารถคาดการณ์ได้แบบนั้น(ซึ่งทำได้ยาก) และเมื่อตั้งใจลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 3-5 ปีขึ้นไปอยู่แล้ว สามารถทำผลตอบแทนชนะตลาดได้โดยไม่ต้องจับจังหวะ ด้วยเทคโนโลยี Jitta Ranking
Jitta Ranking เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อการคัดกรองหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยพิจารณาพื้นฐาน การเติบโต และมูลค่าของหุ้น ผลตอบแทนชนะตลาดระยะยาวที่สร้างได้ จึงเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีที่ Jitta Ranking คัดกรองมาให้ ไม่ได้เกิดจากการจับจังหวะตลาด
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการลงทุนระยะสั้น 2-3 ปี การจับจังหวะก็จะมีผลกระทบต่อกำไรที่ทำได้พอสมควร แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ครับว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน อาจจะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์ตลาดและความสามารถในการจับจังหวะของแต่ละคน
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป โดยเริ่มลงทุนได้ทันทีเมื่อเงินพร้อม จากนั้นก็ปล่อยให้เทคโนโลยีคัดเลือกหุ้น และปรับพอร์ตอย่างมีวินัยไปเรื่อยๆ